การแต่งงานของแซมสัน
พระธรรมผู้วินิจฉัย 14
ถ้ากล่าวถึงการแต่งงานของแซมสัน
ต้องย้อนกลับไปตอนที่พระเจ้าส่งทูตของพระองค์มาบอกกับพ่อแม่ของแซมสัน มีชายคนหนึ่งเป็นชาวเมืองโศราห์คนเผ่าดาน ชื่อมาโนอาห์ ภรรยาของเขาเป็นหมันไม่มีบุตร
3) ทูตของพระยาห์เวห์มาปรากฏแก่หญิงนั้น กล่าวแก่นางว่า “นี่แน่ะ เจ้าเป็นหมันไม่มีบุตร แต่เจ้าจะตั้งครรภ์และคลอดบุตรชาย4) ฉะนั้นบัดนี้จงระวัง อย่าดื่มเหล้าองุ่น หรือของมึนเมา และอย่ากินของมลทินทุกอย่าง
5) เพราะนี่แน่ะ เจ้าจะตั้งครรภ์และคลอดบุตรชาย อย่าให้มีดโกนถูกศีรษะของเขา เพราะเด็กนั้นจะเป็นนาศีร์แด่พระเจ้าตั้งแต่เกิด และเขาจะเริ่มช่วยกู้คนอิสราเอลให้พ้นจากมือของคนฟีลิสเตีย” วนฉ.13:2-5
พระเจ้าบอกกับภรรยาของมาโนอาห์ว่าลูกที่เกิดมาจะเป็นนาศีร์แด่พระเจ้า
แซมสันจะต้องเป็นนาศีร์ คือคนที่ปฏิญาณตนว่าจะแยกตัวออกมาเพื่อรับใช้พระเจ้า
พ่อแม่ของแซมสันปฏิญาณแทนเขา บางครั้งคำปฎิญาณของนาศีร์ก็ทำเพียงชั่วคราว
แต่ในกรณีของแซมสัน เขาปฏิญาณเป็นนาศีร์ตลอดชีวิต ในฐานะนาศีร์ แซมสันจะตัดผม
แตะต้องศพและดื่มของมึนเมาไม่ได้ และ ไม่เพียงแค่นั้น
การแต่งงานกับหญิงชาวฟิลิสเตียเป็นการขัดกับบทบัญญัติของพระเจ้า
และอีกทั้งชาวฟิลิสเตียยังเป็นศัตรูตัวฉกาจของอิสราเอล
ด้วยเหตุนี้การแต่งงานของแซมสันกับหญิงฟิลิสเตียที่ชาวอิสราเอลเกรียจชังย่อมนำความเสื่อมเสียมาสู่ครอบครัวของแซมสัน
ถ้าเราสังเกตุชีวิตของแซมสัน ตั้งแต่บทที่ 14-16 แซมสันละเมิดคำปฏิญาณของตนและละเมิดบทบัญญัติของพระเจ้าหลายครั้ง
แซมสันกินน้ำผึ้งจากซากศพของสิงโต นอนกับหญิงโสเภณี
ไปแต่งงานกับหญิงฟิลิสเตียที่เป็นศัตรูของชนชาตอิสราเอล แต่ทำไมพระคัมภีร์กล่าวในบทที่14:4
ว่า “บิดามารดาไม่ทราบว่า เรื่องนี้เป็นมาจากพระยาห์เวห์ เพราะพระองค์ทรงหาช่องทางที่จะต่อสู้พวกฟีลิสเตีย ในเวลานั้นพวกฟีลิสเตียมีอำนาจเหนืออิสราเอล”
ในข้อพระคัมภีร์ตอนนี้หลายคนอาจเข้าใจว่า
พระเจ้าทรงเห็นชอบในการแต่งงานของแซมสันซึ่งเป็นการละเมิดบทบัญญัติของพระเจ้า
แต่แท้จริงแล้วการตัดสินใจของแซมสันเกิดจากความอ่อนแอของแซมสันที่ปล่อยให้ตัณหาครอบงำชีวิตของแซมสันในการไปแต่งงานกับหญิงฟิลิสเตีย
แต่พระเจ้าก็สามารถใช้ความอ่อนแอ่ที่เกิดขึ้นกับแซมสันเพื่อกระทำให้พระราชกิจของพระองค์สำเร็จ
เพราะในข้อที่ 4 กล่าวว่า เพราะพระองค์ทรงหาช่องทางที่จะต่อสู้พวกฟีลิสเตีย
อาจจะมีบางคนคิดว่าทำไมแซมสันละเมิดบทบัญญัติของพระเจ้าแล้วพระเจ้ายังสามารถใช้แซมสันต่อไปได้
แท้จริงพระเจ้าสามารถใช้ใครก็ได้เพื่อทำให้แผนการของพระองค์สำเร็จ
พระเจ้าสามารถใช้ลาให้เตือนสติผู้เผยพระวจนะคนหนึ่งได้
พระเจ้าสามารถใช้คนบาปคนไหนก็ได้เพื่อให้แผนการของพระเจ้าสำเร็จเหมือนยูดาสที่
ทรยศพระเยซู แต่แท้จริงแล้วพระเจ้าใช้ความอ่อนแอของแซมสันเพื่องานของพระเจ้า
และพระเจ้าได้เลือกแซมสันไว้แล้วให้ทำงานของพระองค์ให้สำเร็จ ตามที่พระเจ้าตรัสผ่านทูตของพระองค์กับภรรยาของ
มาโนอาห์ “เพราะนี่แน่ะ เจ้าจะตั้งครรภ์และคลอดบุตรชาย อย่าให้มีดโกนถูกศีรษะของเขา เพราะเด็กนั้นจะเป็นนาศีร์แด่พระเจ้าตั้งแต่เกิด และเขาจะเริ่มช่วยกู้คนอิสราเอลให้พ้นจากมือของคนฟีลิสเตีย” วนฉ.13:5 การทรงเรียก การทรงเลือก และการทรงใช้
มีความหมายที่แตกต่างกัน พระเจ้าสามารถใช้มารซาตานเพื่อทำให้แผนการของพระเจ้าสำเร็จได้แต่ไม่ใช่หมายความว่ามารซาตานจะได้รับความรอด
เพราะมารซาตานไม่ได้เป็นผู้ถูกเรียกและถูกเลือก
ปัญหาที่พบในแซมสัน
ประการแรก แซมสันมีปัญหากับพระเจ้า
เขามิได้อธิษฐานทูลถามพระเจ้า หาน้ำพระทัยของพระองค์ในเรื่องคู่ครอง เขาอาจคิดว่า “พระเจ้าต้องเห็นด้วยกับเขาอยู่แล้ว”
ประการที่สอง แซมสันมีปัญหากับตัวเอง
“ไม่ตระหนักว่าตนเองเป็นคนที่พระเจ้าทรงเลือกไว้เป็นพิเศษ
ประการที่สาม แซมสันมีปัญหากับพ่อแม่
(ผู้ปกครอง) เขาพยายามที่จะทำตัวเป็น “ลูกบังเกิดเกล้า” เอาแต่ใจตนเอง บังคับพ่อแม่ให้ทำตามความคิดของตนเอง
ประการที่สี่ แซมสันมีปัญหากับภรรยา
และมีปัญหากับเพื่อนบ้าน
ประการสุดท้าย ในที่สุดแซมสันก็มีปัญหากับพ่อตาของตนเอง
“ส่วนภรรยาของแซมสันนั้น พ่อตาก็ยกให้แก่เพื่อน
ซึ่งเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวนั้นเสีย”
จะเห็นว่าบาปหนึ่งก็นำไปสู่อีกบาปหนึ่ง
แซมสันเข้าไปเกี่ยวข้องกับหญิงโสเภณี “แซมสันไปที่เมืองกาซาพบหญิงแพศยาคนหนึ่ง
ก็เข้าไปนอนด้วย” จากนั้นแซมสันก็แต่งงานเป็นครั้งสอง “อยู่มาภายหลังแซมสันไปรักผู้หญิงคนหนึ่งที่หุบเขาเมืองโสเรกชื่อเดลิลาห์” การโหยหาและขวนขวายเสาะหาความรักที่ไม่ใช่น้ำพระทัยของพระเจ้า ( http://thaisermons.com)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น