วันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2557

การแต่งงานของแซมสัน



 

การแต่งงานของแซมสัน

 

 

 

          พระธรรมผู้วินิจฉัย 14
  ถ้ากล่าวถึงการแต่งงานของแซมสัน ต้องย้อนกลับไปตอนที่พระเจ้าส่งทูตของพระองค์มาบอกกับพ่อแม่ของแซมสัน   มีชายคนหนึ่งเป็นชาวเมืองโศราห์คนเผ่าดาน ชื่อมาโนอาห์ ภรรยาของเขาเป็นหมันไม่มีบุตร
3) ทูตของพระยาห์เวห์มาปรากฏแก่หญิงนั้น กล่าวแก่นางว่านี่แน่ะ เจ้าเป็นหมันไม่มีบุตร แต่เจ้าจะตั้งครรภ์และคลอดบุตรชาย4) ฉะนั้นบัดนี้จงระวัง อย่าดื่มเหล้าองุ่น หรือของมึนเมา และอย่ากินของมลทินทุกอย่าง
5) เพราะนี่แน่ะ เจ้าจะตั้งครรภ์และคลอดบุตรชาย อย่าให้มีดโกนถูกศีรษะของเขา เพราะเด็กนั้นจะเป็นนาศีร์แด่พระเจ้าตั้งแต่เกิด และเขาจะเริ่มช่วยกู้คนอิสราเอลให้พ้นจากมือของคนฟีลิสเตีย  วนฉ.13:2-5
        
    พระเจ้าบอกกับภรรยาของมาโนอาห์ว่าลูกที่เกิดมาจะเป็นนาศีร์แด่พระเจ้า แซมสันจะต้องเป็นนาศีร์ คือคนที่ปฏิญาณตนว่าจะแยกตัวออกมาเพื่อรับใช้พระเจ้า พ่อแม่ของแซมสันปฏิญาณแทนเขา บางครั้งคำปฎิญาณของนาศีร์ก็ทำเพียงชั่วคราว แต่ในกรณีของแซมสัน เขาปฏิญาณเป็นนาศีร์ตลอดชีวิต ในฐานะนาศีร์ แซมสันจะตัดผม แตะต้องศพและดื่มของมึนเมาไม่ได้ และ ไม่เพียงแค่นั้น การแต่งงานกับหญิงชาวฟิลิสเตียเป็นการขัดกับบทบัญญัติของพระเจ้า และอีกทั้งชาวฟิลิสเตียยังเป็นศัตรูตัวฉกาจของอิสราเอล ด้วยเหตุนี้การแต่งงานของแซมสันกับหญิงฟิลิสเตียที่ชาวอิสราเอลเกรียจชังย่อมนำความเสื่อมเสียมาสู่ครอบครัวของแซมสัน
           
ถ้าเราสังเกตุชีวิตของแซมสัน ตั้งแต่บทที่ 14-16 แซมสันละเมิดคำปฏิญาณของตนและละเมิดบทบัญญัติของพระเจ้าหลายครั้ง แซมสันกินน้ำผึ้งจากซากศพของสิงโต นอนกับหญิงโสเภณี ไปแต่งงานกับหญิงฟิลิสเตียที่เป็นศัตรูของชนชาตอิสราเอล แต่ทำไมพระคัมภีร์กล่าวในบทที่14:4 ว่า บิดามารดาไม่ทราบว่า เรื่องนี้เป็นมาจากพระยาห์เวห์ เพราะพระองค์ทรงหาช่องทางที่จะต่อสู้พวกฟีลิสเตีย ในเวลานั้นพวกฟีลิสเตียมีอำนาจเหนืออิสราเอล
ในข้อพระคัมภีร์ตอนนี้หลายคนอาจเข้าใจว่า พระเจ้าทรงเห็นชอบในการแต่งงานของแซมสันซึ่งเป็นการละเมิดบทบัญญัติของพระเจ้า แต่แท้จริงแล้วการตัดสินใจของแซมสันเกิดจากความอ่อนแอของแซมสันที่ปล่อยให้ตัณหาครอบงำชีวิตของแซมสันในการไปแต่งงานกับหญิงฟิลิสเตีย แต่พระเจ้าก็สามารถใช้ความอ่อนแอ่ที่เกิดขึ้นกับแซมสันเพื่อกระทำให้พระราชกิจของพระองค์สำเร็จ เพราะในข้อที่ 4 กล่าวว่า เพราะพระองค์ทรงหาช่องทางที่จะต่อสู้พวกฟีลิสเตีย
อาจจะมีบางคนคิดว่าทำไมแซมสันละเมิดบทบัญญัติของพระเจ้าแล้วพระเจ้ายังสามารถใช้แซมสันต่อไปได้ แท้จริงพระเจ้าสามารถใช้ใครก็ได้เพื่อทำให้แผนการของพระองค์สำเร็จ พระเจ้าสามารถใช้ลาให้เตือนสติผู้เผยพระวจนะคนหนึ่งได้ พระเจ้าสามารถใช้คนบาปคนไหนก็ได้เพื่อให้แผนการของพระเจ้าสำเร็จเหมือนยูดาสที่ ทรยศพระเยซู แต่แท้จริงแล้วพระเจ้าใช้ความอ่อนแอของแซมสันเพื่องานของพระเจ้า และพระเจ้าได้เลือกแซมสันไว้แล้วให้ทำงานของพระองค์ให้สำเร็จ ตามที่พระเจ้าตรัสผ่านทูตของพระองค์กับภรรยาของ มาโนอาห์เพราะนี่แน่ะ เจ้าจะตั้งครรภ์และคลอดบุตรชาย อย่าให้มีดโกนถูกศีรษะของเขา เพราะเด็กนั้นจะเป็นนาศีร์แด่พระเจ้าตั้งแต่เกิด และเขาจะเริ่มช่วยกู้คนอิสราเอลให้พ้นจากมือของคนฟีลิสเตีย วนฉ.13:5  การทรงเรียก การทรงเลือก และการทรงใช้ มีความหมายที่แตกต่างกัน พระเจ้าสามารถใช้มารซาตานเพื่อทำให้แผนการของพระเจ้าสำเร็จได้แต่ไม่ใช่หมายความว่ามารซาตานจะได้รับความรอด เพราะมารซาตานไม่ได้เป็นผู้ถูกเรียกและถูกเลือก

ปัญหาที่พบในแซมสัน

ประการแรก แซมสันมีปัญหากับพระเจ้า เขามิได้อธิษฐานทูลถามพระเจ้า หาน้ำพระทัยของพระองค์ในเรื่องคู่ครอง เขาอาจคิดว่า พระเจ้าต้องเห็นด้วยกับเขาอยู่แล้ว

ประการที่สอง แซมสันมีปัญหากับตัวเอง ไม่ตระหนักว่าตนเองเป็นคนที่พระเจ้าทรงเลือกไว้เป็นพิเศษ

ประการที่สาม แซมสันมีปัญหากับพ่อแม่ (ผู้ปกครอง) เขาพยายามที่จะทำตัวเป็น ลูกบังเกิดเกล้า เอาแต่ใจตนเอง บังคับพ่อแม่ให้ทำตามความคิดของตนเอง

ประการที่สี่ แซมสันมีปัญหากับภรรยา และมีปัญหากับเพื่อนบ้าน

ประการสุดท้าย ในที่สุดแซมสันก็มีปัญหากับพ่อตาของตนเอง ส่วนภรรยาของแซมสันนั้น พ่อตาก็ยกให้แก่เพื่อน ซึ่งเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวนั้นเสีย  

จะเห็นว่าบาปหนึ่งก็นำไปสู่อีกบาปหนึ่ง แซมสันเข้าไปเกี่ยวข้องกับหญิงโสเภณี แซมสันไปที่เมืองกาซาพบหญิงแพศยาคนหนึ่ง ก็เข้าไปนอนด้วยจากนั้นแซมสันก็แต่งงานเป็นครั้งสอง อยู่มาภายหลังแซมสันไปรักผู้หญิงคนหนึ่งที่หุบเขาเมืองโสเรกชื่อเดลิลาห์ การโหยหาและขวนขวายเสาะหาความรักที่ไม่ใช่น้ำพระทัยของพระเจ้า ( http://thaisermons.com)